Category ข่าววันนี้

กองทัพอากาศ

กองทัพอากาศ แจง F-16 บินผ่านพิธีลอยอังคารอดีต ผบ.ทอ. เทิดเกียรติผู้มีคุณูปการทัพฟ้า

กองทัพอากาศ แจงจากกรณี พรรคก้าวไกล แฉอดีต ผบ.ทอ. ใช้ F-16 บินไว้อาลัยพ่อตัวเอง

เรืออากาศโท ธนเดช เพ็งสุข ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (2 ก.พ.) ว่า อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ พลอากาศเอก นภาเดช ธูปะเตมีย์ ใช้เครื่องบินรุ่น F-16 (เอฟ-1) บินไว้อาลัยและลอยอังคารพ่อของตนเอง ซึ่งก็คือ พล.อ.อ. ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ ที่เคยเป็นผู้บัญชาการทหารอากาศ ระหว่างปี 2526-2530

“ได้มีการจัดพิธีลอยอังคารขึ้น และก็ใช้เครื่องบิน F-16 นะครับ สำหรับการบินเทิดเกียรตินะครับ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ ซึ่งก็คือบิดาของ พล.อ.อ.นภาเดช นะครับ” ร.ท.ธนเดช กล่าว

“นี่เป็นการใช้อากาศยานแบบ F-16 ครับ เพื่อประโยชน์ส่วนตนนะครับ ในภารกิจส่วนตัวโดยแน่ชัดนะครับ ซึ่งการใช้อากาศยานแบบ F-16 ครับ จะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยตกที่ 1. เป็น O/M Cost (ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการแล้วก็ซ่อมบำรุง) นะครับ 1 ชั่วโมงประมาณ 120,000 บาท นะครับ ซึ่งอันนี้ได้มีการใช้ F-16 จำนวน 2 ลำนะครับ เฉลี่ยค่าใช้จ่าย 2 ชั่วโมงอยู่ที่ 200,000 กว่าบาทนะครับ”

ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล พูดถึง พล.อ.อ.นภาเดช อีกว่าเป็นคนเดียวกับที่เคยให้ความเห็น ต่อการบินรุกน้ำน่านฟ้าไทยของกองทัพเมียนมา เพื่อโจมตีกลุ่มต่อต้านรัฐประหารและกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ ว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่

“พล.อ.อ.นภาเดช เป็นคนที่เคยพูดไว้ ในวันที่ทหารของพม่านะครับ บินลัดเข้ามาน่านฟ้าไทย ท่านเคยให้ข่าวว่า เหมือนเพื่อนมาลัดสนามหน้าบ้าน แต่กับพิธีลอยอังคารของบิดาท่าน F-16 กลับมาบินได้อย่างตรงเวลานะครับ”

ก้าวไกล แฉอดีต ผบทอ
ไม่คาดหวังฝีมือ รมว.กลาโหม

นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่มาแถลงด้วยนั้น กล่าวเรียกร้องให้กองทัพอากาศชี้แจงประเด็นนี้ แล้วก็ยกตัวอย่างว่า แม้แต่ระดับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นบางพื้นที่ ก็ยังมีการจำคุกนายกเทศมนตรี ที่นำรถยนต์ของรัฐ มาใช้กับเรื่องส่วนตัว

ส.ส. พรรคก้าวไกล รายนี้ พูดว่าตนไม่คาดหวัง ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งก็คือ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาแก้ปัญหาเรื่องนี้ เนื่องจากมั่นใจว่าไม่มีความสามารถและก็กำลังจะหมดวาระในไม่ช้า

“อาจจะไม่สามารถพึ่งอะไร หรือคาดหวังอะไร กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนปัจจุบันนี้แล้ว ที่กำลังจะหมดวาระ หมดอายุขัยลงไปแล้ว” นายพิจารณ์ กล่าว

นอกจากนั้น นายพิจารณ์ ยังกล่าวย้ำ จุดยืนของพรรคก้าวไกลอีกว่า จะเดินหน้าผลักดัน การปฏิรูปกองทัพ ด้วยการนำทหารออกมาจากการเมือง การลดขนาดกำลังพลแล้วก็จำนวนนายพล การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร คืนธุรกิจกองทัพให้รัฐบาล แล้วก็คืนที่ราชพัสดุ เพื่อใช้สำหรับสาธารณะ

กองทัพอากาศแจง F-16 บินผ่านพิธีลอยอังคารอดีต ผู้บัญชาการทหารอากาศ เทิดเกียรติผู้มีคุณูปการ ริเริ่มจัดหา F-16 เข้าประจำการทัพฟ้า หลังจากจบภารกิจบินลาดตระเวนตามวงรอบ

สืบเนื่องจากพิธีพระราชทานเพลิงศพ เมื่อเวลา 17.10 น. วันที่ 2 ก.พ. 2566 พล.อ.ต.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เผยออกมาว่า ดังที่ปรากฏข่าวในสื่อต่างๆ ถึงกรณีความผิดปกติ สำหรับในการใช้เครื่องบิน แบบ F-16 ของกองทัพอากาศนั้น กองทัพอากาศได้ตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นการบินทดสอบ การปฏิบัติการร่วม ในภารกิจการบินลาดตระเวน และก็แจ้งเตือน ซึ่งการปฏิบัติภารกิจนี้ เป็นวงรอบการฝึก เพื่อดำรงความพร้อม สำหรับการปฏิบัติภารกิจการปกป้องประเทศ เพื่อบูรณาการขีดความสามารถ สำหรับเพื่อการปฏิบัติการตามแผนคุ้มครองป้องกันประเทศ

ประพันธ์ ธูปะเตมีย์
ซึ่งในวันดังกล่าว เมื่อสิ้นสุดการปฏิบัติภารกิจ การบินทดสอบการปฏิบัติการร่วมแล้ว กองทัพอากาศ แล้วได้นำเครื่องบินในหมู่บินดังกล่าว บินผ่านเพื่อเทิดทูนเกียรติ

ในพิธีลอยอังคารของ พล.อ.อ.ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ ซึ่งเป็นผู้ที่มีคุณูปการ สำหรับในการพัฒนาขีดความสามารถกำลังทางอากาศ

โดยท่านเป็นคนที่มีความคิดริเริ่มสำหรับการจัดหาเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์สมรรถนะสูงแบบ F-16 เข้าประจำการในกองทัพอากาศไทย ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มแรกของการพัฒนากองทัพอากาศ ให้มีความทันสมัย พร้อมรองรับความท้าทายและก็ภัยคุกคามในเวลานั้น ที่เป็นยุคสงครามเย็น โดยการบินดังกล่าว เป็นการกระทำพิธีให้สมเกียรติ สืบเนื่องมาจาก พิธีพระราชทานเพลิงศพของท่าน

ทั้งนี้ กองทัพอากาศมุ่งมั่นสำหรับในการพัฒนากองทัพอากาศ ตามวิสัยทัศน์ของอดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ เพื่อดำรงไว้ซึ่งขีดความสามารถของกองทัพอากาศสืบไป

พลอากาศเอก ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ คนที่ 10 ดำรงตำแหน่งตอนปี 2525-2530 อดีตรองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 แล้วก็อดีตสมาชิกวุฒิสภาแบบแต่งตั้ง

รับราชการครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2487 ในตำแหน่งนักเรียนนายร้อยทหารบก ดำรงตำแหน่งที่สำคัญได้แก่ นักบินประจำกอง, ครูการบิน, ผู้บังคับฝูงฝึกขั้นปลาย กองฝึก โรงเรียนการบิน, รองผู้บังคับกอง กองฝึก โรงเรียนการบิน, อาจารย์ฝ่ายวิชาการ กองวิชาการ โรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ, ผู้ช่วยทูตทหารอากาศ ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมะนิลา, รองผู้อำนวยการกองการศึกษา โรงเรียนเสนาธิการททหารอากาศ

ผู้บังคับการกองบิน 7, เจ้ากรมการเงินทหารอากาศ, เจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารอากาศ, ผู้ช่วยเสนาธิการทหารอากาศ ฝ่ายยุทธบริการ, รองเสนาธิการทหารอากาศ, รองผู้บัญชาการทหารอากาศ, ผู้บัญชาการทหารอากาศและ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด

พลอากาศเอก ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ ถึงแก่อนิจกรรมเนื่องจากว่าติดเชื้อในกระแสเลือด ณ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ เมื่อวันอังคารที่ 3 ธ.ค. พุทธศักราช 2562 สิริอายุรวม 92 ปี

นอท กองสลากพลัส จบเห่

นอท กองสลากพลัส ประกาศคนถูกรางวัล "DSIจะไม่โทรไปหา" แจ้งช่องทางตามเงื่อนไขใหม่

นอท กองสลากพลัส แจ้ง คนถูกรางวัล DSI จะไม่โทรไปหา ขอประชาชนติดตามเงื่อนไขแล้วก็รูปแบบจากกรมสอบสวนคดีพิเศษเท่านั้น ย้ำระวังมิจฉาชีพ

จากกรณี กองสลากพลัส แจ้งว่า งวด 1 กุมภาพันธ์ 66 ภายหลังจากประกาศผลรางวัลเสร็จเรียบร้อย จะคัดแยกลอตเตอรี่ใบจริงที่ถูกรางวัล ส่งให้ทาง DSI ดำเนินการต่อ แล้วหลังจากนั้น DSI จะติดต่อลูกค้า เพื่อส่งลอตเตอรี่ใบจริงที่ถูกรางวัล และก็ลูกค้าจะต้องนำลอตเตอรี่ไปขึ้นเงินรางวัลด้วยตัวเอง เนื่องจากว่ากองสลากพลัสถูกระงับบัญชีบริษัททั้งหมด ไม่สามารถที่จะทำธุรกรรมด้านการเงินได้

ล่าสุด วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 66 นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือนอท กองสลากพลัส ออกมาแจ้งผ่านเฟซบุ๊กว่า พรุ่งนี้คนถูกรางวัล DSI จะไม่โทรไปหา พร้อมระบุรายละเอียดว่า พรุ่งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะประกาศเงื่อนไขและรูปแบบ ในการรับเงินรางวัล ของผู้ถูกรางวัลที่ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจาก กองสลากพลัสให้ประชาชนทราบโดยพร้อมกัน

โดยวิธีการที่กำหนดนั้น จะเป็นการดำเนินการร่วมกับ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะไม่มีการโทรไปหาประชาชนจาก DSI ในเรื่องเกี่ยวกับการถูกรางวัลใดๆ ขอประชาชนติดตามเงื่อนไขและก็รูปแบบจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ เท่านั้น ย้ำว่าจะไม่มี DSI โทรหาผู้ใด ระวังมิจฉาชีพนะครับ

คนถูกรางวัล DSI
“นอท กองสลากพลัส” ยันไม่เคยฟอกเงินให้ใคร พร้อมยุติการขายชั่วคราว จนกว่าจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้

”นอท พันธ์ธวัช” เคลื่อนไหวแล้ว หลังมีข่าวโดน DSI แจ้ง 2 ข้อกล่าวหา ทั้งฟอกเงินและจัดให้มีการเล่นพนัน เจ้าตัวยันไม่เคยฟอกเงิน พร้อมยุติการขายลอตเตอรี่ จนกว่าจะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้

จากกรณีแหล่งข่าวในกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) บอกว่า นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือนอท ผู้บริหาร บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ เจ้าของแพลตฟอร์ม “กองสลากพลัส” ได้เดินทางเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาใน 2 คดี เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน และก็จัดให้มีการเล่นการพนัน ตามหมายเรียกของดีเอสไอที่ออกไปก่อนหน้านี้ โดยวันนี้นายพันธ์ธวัชได้เดินทางมาด้วยตนเอง แล้วก็ได้รับการประกันตัวออกไป ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 31 มกราคม เฟซบุ๊กของ “ซีอีโอกองสลากพลัส” ออกมาคลื่อนไหว โดยเจ้าตัวได้โพสต์ข้อความยืนยันความบริสุทธิ์ ยันไม่ได้มีการฟอกเงินตามที่เป็นข่าว โดยได้ระบุข้อความสั้นๆ ว่า

“เนื่องจากเป็นคดีที่กระทบต่อความเชื่อมั่น ผมขอเวลาในการพิสูจน์ตัวเอง และผมยืนยันว่าผมไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ผมไม่เคยฟอกเงินให้ใคร”

อย่างไรก็ดี มีรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้ารับทราบ 2 ข้อกล่าวหาของ “นอท กองสลากพลัส” จาก DSI ว่า ในช่วงเวลานี้จะทำการยุติการขายลอตเตอรี่ จนกว่าตนเองจะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้

“นอท กองสลากพลัส” จบเห่!?…เจอสองข้อหาหนัก ฟอกเงิน-จัดให้เล่นการพนัน..แพลตฟอร์มหวยออนไลน์ มาไว ไปไว

ในที่สุด “นอท” พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ ซีอีโอ กองสลากพลัส แพลตฟอร์มขายหวยออนไลน์ชื่อดัง ก็ต้องคดีเพิ่มอีกสองคดีแบบจุกๆ หนักๆ ทั้ง “ฟอกเงิน” และก็ “จัดให้มีการเล่นพนัน”

หวยงวดนี้ที่ “นอท” ถูก มาจากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ขยายผลจากการจับกุมแก๊ง “บัญชีม้า” ก่อนหน้าที่ผ่านมา แล้วพบพัวพันกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ สืบไปสาวมาก็เจอว่าเส้นทางการเงินสีเทาๆ พวกนั้นตรงรี่มาที่บัญชีของ “นอท”

ในขณะที่เจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งมั่นใจ 100% ไม่เคยฟอกเงินให้ใคร และจะสู้คดีในชั้นศาล

นอท พันธ์ธวัช
“นอท” ยังยืนยันตนเองไม่ได้ทำตามที่ถูกกล่าวหา แต่ว่าเมื่ออยู่ภายใต้กฎหมายไทยก็จำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

พร้อมๆ กันนี้ “นอท” ได้ประกาศปิดแพลตฟอร์มของตนเอง ยุติการจำหน่ายลอตเตอรี่ จนกว่าจะมีคำตัดสิน ประหนึ่งเพื่อแสดงสปิริตหล่อๆ ทั้งๆ ที่จริงถ้าเกิด “นอท” ไม่แสดงสปิริต “ดีเอสไอ” ก็แจ้งไปยังกระทรวงดิจิทัลฯ ให้ปิดแพลตฟอร์มขายหวยออนไลน์กองสลากพลัสอยู่แล้ว

แม้ทางกองสลากพลัสจะถูกปิดลง ตามประสาคนชอบพูดโอ่ ซีอีโอ กองสลากพลัส ยังกล่าวว่า ตนเองมีโครงการอื่นๆ ที่จะทำอีกมาก ต่อยอดจากแบรนด์กองสลากพลัสที่โหมประโคมโฆษณา จนติดหูติดตาชาวบ้าน

เรียกว่า ไม่สะทกสะท้านสะเทือนใดๆ แล้วก็จะไม่ถอดใจเพียงเท่านี้!!

เรื่องราวเฉพาะหน้าต่อจากนี้ ก็เป็นเรื่องของ “นักเสี่ยงโชค” ที่กดซื้อหวยจากกองสลากพลัสไปแล้ว มีคำถามว่าจะทำอย่างไรหากถูกรางวัลขึ้นมา “นอท” ก็โบ้ยไปที่ ดีเอสไอ ด้วยเหตุว่าลอตเตอรี่ถูกอายัด คนที่ถูกหวย ดีเอสไอ จะติดต่อส่งลอตเตอรี่ให้ถึงมือภายใน 7 วัน แล้วลูกค้านำไปขึ้นเงินด้วยตัวเองได้ตามปกติ แต่หากหวยหาย ก็ต้องทวงที่ดีเอสไอ เช่นกัน

ดูๆ แล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไรในประเด็นนี้ แต่ว่าบรรดาคอหวย ที่ไม่ได้ติดตามข่าวคราว ก็อาจจะตกใจเล็กน้อย ที่ถ้าหากดีเอสไอ โทร.หา เพราะเหตุว่า บ่อยครั้งที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ก่อกวนเราๆท่านๆ มักอ้างตัวเป็นดีเอสไอด้วยนี่สิ ก็ขอโปรดตรวจสอบกันให้ดีๆ ก็แล้วกัน

ถึงตรงนี้ก็ถามไถ่กันมาว่า “กองสลากพลัส” จะกลับมาได้หรือไม่ เส้นทางของ “นอท พันธ์ธวัช” จะจบเห่ลงแค่นี้หรือเปล่า? ก็จะต้องบอกว่า ก่อนหน้าที่ผ่านมา หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงดิจิทัลฯ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล แล้วก็สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รวบรวมพยานหลักฐานในการปิดกั้นแพลตฟอร์มขายสลากออนไลน์ไม่ถูกกฎหมายรวมถึงกรณีแพลตฟอร์มของกองสลากพลัสเอาไว้หมดแล้ว ทั้งเรื่อง ฟอกเงิน ขายสลากเกินราคา จัดให้เล่นการพนัน และก็โฆษณาเกินจริง ซึ่งกระทรวงดิจิทัลฯ ได้ยื่นเรื่องไปที่ศาล ขอปิดกั้นแพลตฟอร์ม กองสลากพลัสแบบถาวร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนของศาล

นอกเหนือจากกองสลากพลัส ยังมีข้อมูลว่า ตั้งแต่เดือน มิ.ย.ปีที่ผ่านมา กระทรวงดิจิทัลฯ ได้ยื่นคำร้องต่อศาล ในการขอปิดกั้นแพลตฟอร์มอื่น ที่เข้าข่ายจำหน่ายสลากอย่างผิดกฎหมาย ตามที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้แจ้งความดำเนินคดีต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 15 แฟลตฟอร์ม ซึ่งศาลมีคำสั่งปิดกั้นแล้ว 12 แพลตฟอร์ม ส่วนที่เหลืออีก 3 แพลตฟอร์ม อยู่ระหว่างดำเนินการในชั้นศาล

แพลตฟอร์มหวยออนไลน์มาไว ก็ไปไว จะถึงคราวอวสานหรือไม่ วิเคราะห์กันได้ไม่ยาก ส่วนชะตากรรมของ “นอท พันธ์ธวัช” ก็ขึ้นอยู่กับการหลักฐาน พยาน…จะจบเห่ หรือ จะแพ้เป็นถ่าน จะผ่านเป็นเพชร อย่างที่เจ้าตัวชอบยกมาปลุกปลอบใจตัวเองก็รอดูกัน

ที่แน่ๆ งานนี้ไม่มีเสี่ยงโชค หากกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา นะจ๊ะ!!

ครบรอบ 2 ปีของ รัฐประหารพม่า

ครบรอบ 2 ปีของ รัฐประหารพม่า ปูทางเลือกตั้งเอื้อพรรคทหาร

พรุ่งนี้ 1 ก.พ. 2566 คือวาระครบรอบ 2 ปีของการก่อ รัฐประหารพม่า โดยพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย สถานการณ์ความเคร่งเครียด, ปัญหาเศรษฐกิจ, การล่มสลายของประชาสังคม และการถูกประชาโลกโดดเดี่ยว ดูเหมือนจะเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นตลอดเวลา

ทุกสัญญาณชี้ว่ากองทัพเมียนมาเตรียมผนึกอำนาจต่อ และแม้จะอ้างว่า จะจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วๆไป ในปีนี้ แต่ก็มีการ ออกกฎเลือกตั้งตัดจังหวะคู่แข่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งแกนการเมือง ที่นำโดยอองซานซูจี ที่วันนี้กลายเป็นผู้ถูกศาลทหาร สั่งเข้าคุกในหลายคดี เป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว

สัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลทหารของเมียนมา ประกาศกฎเกณธ์กติกาการเลือกตั้งใหม่ สำหรับพรรคการเมืองที่จะลงเเข่ง ในสนามเลือกตั้งปีนี้ มีรายละเอียดที่เขียนข้อตกลงเกี่ยวกับคุณสมบัติของพรรคการเมือง และผู้สมัครรับเลือกตั้ง ที่เพิ่มหลักเกณฑ์ให้ยาก และซับซ้อนมากขึ้น ชัดเจนว่า เพื่อเป็นการปูทางสำหรับบทบาทของกองทัพ เพื่อให้ผูกขาดอำนาจทางการเมืองถัดไป

โดยให้การจัดการเลือกตั้งเป็นเพียงการจัดฉากให้ดูดีเท่านั้น วันพรุ่งนี้เมื่อสองปีก่อน กองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารและก็ให้คำมั่นว่าจะจัดแจงเลือกตั้งในเดือนสิงหาคมปีนี้ ตามกฎกติกาชุดใหม่ ที่ประกาศผ่านสื่อของรัฐ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พรรคการเมืองต่างๆ ที่ต้องการลงเเข่งเลือกตั้ง ในคราวนี้ ในระดับประเทศ ควรจะมีสมาชิกพรรค อย่างต่ำ 1 แสนคน เพิ่มขึ้นจากคุณสมบัติเดิม ที่กำหนดให้ควรจะมีสมาชิก 1 พันคนแค่นั้น

 

ปูทางเลือกตั้งเอื้อพรรคทหาร
นอกเหนือจากนี้ รัฐประหารพม่า พรรคที่เข้าเกณฑ์ใหม่ จะต้องแสดงความจำนงว่าจะลงเเข่งขันใน 60 วันจากนี้

หากช้ากว่านี้ก็จะถูกให้ออกจากระบบทะเบียน พรรคการเมือง แน่นอนว่าพรรคที่มีความพร้อมเพรียงที่สุดในยามนี้ ก็คือพรรคที่เป็นตัวเเทน ของทหารเมียนมา นั่นเป็น Union Solidarity and Development Party (USDP) ซึ่งมีสมาชิกจำนวนมาก ที่เป็นอดีตนายพลของกองทัพ พรรคนี้แพ้เลือกตั้งต่อพรรค National League for Democracy หรือ NLD ของนางอองซานซูจี ในปี 2005 และ 2020 อย่างหมดท่า

ก่อนกองทัพทำ รัฐประหาร โค่นรัฐบาลของซูจีในปี 2021 โดยอ้างว่ามีการโกงการเลือกตั้งทั้งๆ ที่ฝ่ายทหารไม่เคยแสดงหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ข้อกล่าวอ้างนี้อย่างเป็นรูปธรรมแต่อย่างใด วันนี้ สมาชิกพรรค NLD หรือพรรคสันนิบาตแห่งชาติ เพื่อประชาธิปไตย ถูกคุมขัง หรือโดนจับไปแล้วหลายพันคน ยิ่งกว่านั้นก็ยังมีอีกจำนวนมากที่จำต้องหลบตัวเพื่อหนีการตามไล่ล่าของทหาร ที่ยิ่งวันยิ่งเพิ่มความร้ายแรง ในการปฏิบัติต่อผู้คัดค้าน การใช้อำนาจเผด็จการของกองทัพ

นักวิเคราะห์ที่ติดตามการเมืองพม่ามายาวนานตั้งข้อคิดเห็นว่ากฎใหม่ ที่ถูกพึ่งประกาศออกมานั้น ไม่ต้องสงสัยว่ามีเป้าหมาย เพื่อช่วยเหลือระบบการเมือง ที่ทหารสามารถมีบทบาทเข้าควบคุม ได้อย่างเต็มที่ มีปัญหาว่าตลอดเวลาสองปีที่ผ่านมา ถึงแม้ผู้นำทหารพม่าจะถูกโดดเดี่ยว โดยนานาชาติ แต่ไฉนจึงยังสามารถเอาตัวรอดมาได้ถึงทุกวันนี้

ทำไมมาตรการคว่ำบาตรจากประเทศต่างๆ จึงไม่เป็นผลทำให้มิน อ่อง หล่ายจะต้องยอมผ่อนผันมาตรการล้มล้างประชาชน อย่างหนักของตน คำตอบคือผู้นำทหารพม่าคนนี้ พยายามฉกจังหวะและโอกาสที่มีความปริแยกของประเทศใหญ่ๆ ในสังคมโลกเพื่อยังสามารถแทรกตัวให้ได้รับการช่วยเหลือจากประเทศที่อยู่คนละข้างกับโลกตะวันตก

เดิมทีสหรัฐฯ และยุโรปหวังว่าแรงกดดันด้านเศรษฐกิจ และการทูตจะบีบให้กองทัพเมียนมายอมอ่อนข้อแต่จะต้องเลิกใช้กรรมวิธีเผด็จการ กับผู้เรียกร้องประชาธิปไตย แต่ผู้นำทหารพม่ากลับหาผลประโยชน์จากความแตกแยกทั่วโลก โดยยิ่งเข้ามากลุ่มประเทศ ที่มีมีความขัดแย้งกับประเทศตะวันตก

การเข้าจับกุมยาเสพติดในประเทศไทยเมื่อเร็วๆนี้ พบว่า ลูกชายของ นายพลอาวุโส มิน อ่อง หล่าย เป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมหรูราคาเกือบ 30 ล้านบาทในใจกลางกรุงเทพฯ ผลการสืบสวนยังเจอ สมุดบัญชีเงินฝาก ของลูกสาวนายพล ของสถาบันการเงินชั้นหนึ่งแห่งหนึ่งของไทย สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตร ต่อเจ้าหน้าที่ทหารของเมียนมา และบริษัทในเครือทางทหารหลังการยึดอำนาจ ในก.พ. พ.ศ. 2021 อีกทั้งทรัพย์สินของลูกๆของมิน อ่อง หล่ายก็ถูกอายัดในสหรัฐอเมริกา

หลายประเทศลดระดับความเกี่ยวข้องทางการทูตกับพม่า รวมถึงการไม่ส่งเอกอัครราชทูตไปประจำพม่า สถาบันป้องกันประเทศของญี่ปุ่นจะหยุดรับนายทหาร จากเมียนมาในปีงบประมาณใหม่นี้ กองทัพเมียนมาตอบโต้ว่า มาตรการต่างๆกลุ่มนี้ถือเป็นการแทรกแซง กิจการภายในประเทศ แต่จีนและรัสเซียยังคบพม่าในระดับเดิม พม่ายังคงรักษาความเกี่ยวเนื่องทางด้านเศรษฐกิจที่เหนียวแน่นกับจีน และประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆที่ไม่ฝักใฝ่ตะวันตก

น่าเชื่อได้ว่า คนที่เกี่ยวข้องกับการทหารหลายๆคนก็คงถือครองทรัพย์สิน และเป็นเจ้าของธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้านพม่าเหมือนกันกับลูกของ มิน อ่อง หล่าย ด้วยเหมือนกัน พม่ายังคงติดต่อค้าขายกับเพื่อนบ้าน บางกลุ่ม จีน อินเดีย และไทยรวมกันมีรูปทรงมากกว่า 50% ของการค้าทั้งหมดของเมียนมา ในทางตรงกันข้าม ประเทศสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และสหภาพยุโรปมีสัดส่วนเพียง 14%

ผู้เชี่ยวชาญพูดว่าเศรษฐกิจของเมียนมาวันนี้ ยังมีเสถียรภาพในระดับหนึ่ง แม้ว่าจะไม่เจริญก้าวหน้าก็ตาม กองทุนการเงินระหว่างชาติคาดว่าสินค้ามวลรวมภายในประเทศ ที่ตามที่เป็นจริงของเมียนมาจะเติบโตมากกว่า 3% ในปีงบประมาณปีใหม่นี้ ถือได้ว่าเป็นการฟื้นจากการหดตัว 18% ในปีงบประมาณปี 2021

 

รัฐประหารพม่า
ก็ด้วยเสถียรภาพทางด้านเศรษฐกิจนี่แหละที่ทำให้กองทัพสามารถเริ่มจัดเตรียมเลือกตั้งทั่วไปได้เร็วสุดในเดือนสิงหาคมนี้

โดยหวังว่าจะมอบอำนาจให้พรรคในเครือข่ายทหาร เพื่ออ้างความชอบธรรมกับสังคมโลกว่า ได้จัดให้การเลือกตั้ง ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยแล้ว ยิ่งไปกว่านี้ เมียนมายังกระชับความเกี่ยวเนื่องกับรัสเซีย ซึ่งมีความขัดแย้งกับชาติตะวันตก ในเรื่องการสู้รบยูเครน พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย เจอกับประธานาหัวหน้ารัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ในเดือนกันยายน เพื่อการันตีความร่วมแรงร่วมใจทวิภาคี เมื่อเดือนธันวาคมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ลงมติมติหนแรก ที่เรียกร้องให้เมียนมาร์เป็นประชาธิปไตย แต่รัสเซีย จีน และประเทศอินเดียงดเว้นออกเสียง

สำหรับกองทัพเมียนมา การเป็นแนวร่วมกับรัสเซีย และจีนได้คุณประโยชน์อย่างหนึ่งตรงที่ไม่ไม่สบายใจเรื่องสิทธิมนุษยชนมาก พอๆกับสหรัฐฯ และยุโรป เดี๋ยวนี้ ออง ซาน ซูจี ยังถูกควบคุมตัวหลังการปฏิวัติ และถูกตัดสินติดคุกรวม 33 ปีแล้วในหลายๆคดี กองทัพยังคงทรมาทรกรรม และประหารชีวิตฝ่ายตรงข้าม สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองกล่าวว่า พลเรือน 2,827 คนถูกสังหารตั้งแต่การยึดอำนาจ ไม่แต่แค่นั้น กองทัพพม่ายังได้เดินหน้าโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มต้านติดอาวุธ และเผาหมู่บ้านทั้งหมู่บ้านสำหรับในการสู้รบ บ้านเรือนมากกว่า 48,000 หลังถูกทำลายจนถึงสิ้นเดือนธ.ค.

อาเซียนหรือสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ไม่สามารถที่จะจะบีบคั้นให้กองทัพพม่า ยอมทำตาม “ฉันทามติ 5 ข้อ” เพื่อให้อาเซียนช่วยสร้างสมานฉันท์ในประเทศนั้น ดูดังว่ารัฐบาลทหาร ของเมียนมาจะมีความมั่นใจมากขึ้น เกี่ยวกับการกุมอำนาจรัฐของตัวเองด้วยซ้ำ

สำหรับในการกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันเอกราชปีที่ 75 ของเมียนมาเมื่อวันที่ 4 เดือนมกราคม ที่ผ่านมา มิน อ่อง หล่ายประกาศจะรักษาความสัมพันธ์ฉันท์มิตรกับ เพื่อนบ้านอย่าง จีน ไทย และประเทศอินเดีย “ผมขอแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจสำหรับความร่วมมือและข้อเสนอแนะขององค์กรระดับนานาชาติและระดับภูมิภาคและประเทศต่างๆ ท่ามกลางแรงกดดันและการวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา” เขากล่าว ผมไม่แน่ใจว่าเราควรจะดีใจหรือกังวลที่เขากล่าวขอบคุณประเทศไทยด้วย?

ตะวัน แบม

ตะวัน-แบม เสี่ยงหัวใจหยุดเต้น และประกาศไม่รับโพแทสเซียมอีก หลังทราบว่า ยังมีคนไม่ได้ประกันตัว

ตะวัน-แบม วันที่ 8 ของการอดน้ำแล้วก็อาหาร ของตะวัน—ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และก็แบม—อรวรรณ ภู่พงษ์ แพทย์แจ้งว่า ทั้งคู่มีความเสี่ยงที่หัวใจหยุดเต้น แต่ตะวันและก็แบมก็ยังการันตีที่จะไม่รับการให้น้ำแล้วก็อาหารไม่ว่าจะเป็นในช่องทางใด และไม่รับการรักษา

ทนายความของทั้งคู่ อธิบายว่า คำถามแรกที่ทั้งสองเอ่ยถามคือ มีเพื่อนได้ประกันตัวไหม ซึ่งทนายได้แจ้งตอบว่าไม่มี พร้อมกับรานงานคำบัญชาประกันของศาลอาญาซึ่งยกทุกคำร้องในวันนี้ให้ทั้งคู่ฟัง

มายด์ ยืนหยุดขัง

ส่วนของอาการทั้งสองนั้น มีลักษณะอาการปากแห้ง บริเวณใบหน้าซีด

หากจะลุกไปไหนต้องใช้เครื่องช่วยพยุง รู้สึกเหน็ดเหนื่อยทั้งที่นอนอยู่เฉยๆและก็ตะวันมีลักษณะบวมที่รอบๆใต้คอ ระหว่างคอรวมทั้งกราม ซึ่งแพทย์คาดว่าเหนือกว่าน้ำเหลือง หากบวมกว่านี้บางทีอาจจำเป็นต้องตรวจเพราะเหตุว่าเสี่ยงติดเชื้อ

ถ้อยแถลงระบุว่า ตะวันแล้วก็แบมมีลักษณะอาการเจ็บท้องลมตีขึ้นลิ้นปี่ เป็นการเจ็บท้องทรมารเป็นช่วงๆอยู่ทั้งวัน และจากความทุกข์มรมานทำให้ตกลงยอมรับยาลดกรดเพื่อลดความทรมานจากการปวดท้องและก็ทำให้หลับได้บ้าง ยิ่งกว่านั้น ทั้งคู่มีลักษณะโพแทสเซียมต่ำแล้วก็ได้รับแจ้งความเข้าขั้นความเสี่ยงหัวใจหยุดเต้น โดยวันนี้แบมได้รับโพแทสเซียม แต่ตะวันปฏิเสธไม่รับโพแทสเซียม อีกทั้ง ทั้งคู่ยังยืนยันไม่รับอาหารทางหลอดอะไรก็ตามและไม่รับการดูแลรักษา

“หลังจากได้รับการแจ้งรายงานผลประกันตัวนักโทษการเมืองรายอื่น ทั้งคู่ได้แจ้งว่ามีความต้องการที่จะยกระดับการต่อสู้ของตน กล่าวคือจะไม่รับโพแทสเซียมอีกต่อไป แล้วซึ่งเบื้องต้นทนายได้แจ้งว่า ขอให้รอผลการอุทธรณ์ในคดีที่ได้มีการยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันไปก่อน”

นอกจากนี้ แถลงยังระบุว่า ทั้งสองอยากสื่อสารกับภายนอกว่า กำลังใจของทั้งคู่ดีมาก แต่ร่างกายไม่รู้ว่าไหวถึงไหน ซึ่งทั้งคู่รู้มาตลอดว่าทุกวินาทีคือการนับถอยหลังของการมีชีวิต แต่ต่อให้รู้ก็สู้อีก

“ขอบคุณที่เป็นห่วง แต่เจตนารมณ์ยังเหมือนเดิมไม่ได้เกี่ยวกับทนายความหรือบุคคลใดอื่น พวกหนูตัดสินใจกันเองและจะไม่ให้ค่าอะไร” ตะวันกล่าวกับคนภายนอก

ขณะที่แบม กล่าวว่า “สิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่คือการโทษเหยื่อ ควรไปโทษต้นตอของปัญหา ซึ่งไม่ใช่แบมกับตะวัน”

“พวกหนูอยากบอกว่าเชื่อใจทุกคน เชื่อใจว่าถ้าวันนึงเราชนะ เราจะได้เจอกันที่ปลายทาง รู้ว่าความทรมานของพวกหนูคือความทรมานของทุกคน แต่ขอให้ทุกคนเชื่อใจพวกหนู พวกหนูก็เชื่อใจทุกคนข้างนอก”

ตอนท้ายของแถลงการณ์ ทั้งสองได้แสดงความจำนงค์ว่า จะไม่มีการขอรับบริจาคใดๆ และไม่ต้องการให้มีการบริจาคในนามของทั้งคู่ และขอให้เอาปัจจัยและแรงกำลังไปช่วยเหลือคนอื่นที่ยังขาดแคลนและมีความต้องการมากกว่าพวกตน

“ปี 2549 เราสูญเสียลุงนวมทอง เมื่อสองปีที่แล้ว เราสูญเสียคุณคณากร วันนี้เราจะไม่ยอมสูญเสียตะวันและแบม เป็นอันขาด”

วันนี้ (26 มกราคม) มีมวลชนร่วม #ยืนหยุดขัง บนสกายวอล์คปทุมวัน เพื่อสนับสนุน 3 ข้อเรียกร้องของตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และแบม-อรวรรณ ภู่พงษ์ นักกิจกรรมที่ประกาศอดอาหาร

ตลอดกิจกรรมมีหลายคนผลัดกันขึ้นกล่าวบนเวที อานนท์ นำภา แกนนำคณะราษฎร เป็นอีกหนึ่งคนที่มวลชนจับตามอง โดยเขากล่าวเชิญชวนให้ทุกคนออกมาต่อสู้ร่วมกันจนกว่าจะสำเร็จตามเป้าหมาย

“เมื่อปี 2549 เราสูญเสียลุงนวมทอง เมื่อสามปีที่แล้วเราสูญเสียคุณคณากร วันนี้เราจะไม่ยอมสูญเสียตะวันและแบมเป็นอันขาด”

“ต้นทุนของพวกเรามีเยอะ ในขณะเดียวกันเขาก็ทำลายเราเยอะขึ้น ใบปอ ตะวัน แบม และอีกหลายคนก็เช่นกัน เขาเป็นตัวประกันทางการเมือง การต่อสู้หลายคนสูญเสีย เพื่อนเราโดนยิงตาบอด มีน้องโดนยิงเสียชีวิตหน้า สน.ดินแดง ป้าเป้าโดนคดีการเมือง” อานนท์กล่าว

ตะวัน-แบม ทนายอานนท์ ยืนหยุดขัง

ตะวัน-แบม “เราเริ่มจากทะลุเพดาน วันนี้เรามีทะลุแก๊ส ทะลุวัง ทะลุฟ้า”

แกนนำกลุ่มราษฎรรายนี้ ยังยกตัวอย่างกรณีของวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เนักขยับเขยื้อนทางการเมือง ที่นำมา สู่พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พุทธศักราช 2565 ซึ่งสำเร็จพวงจากการเรียกร้องทางการเมืองเมื่อปี 2563 “สังคมมันได้เปลี่ยนไปแล้ว ไม่เชื่อไปดูคอนเสิร์ตแบล็กพิ้งค์ ไม่เชื่อลองไปดูในโรงหนัง ”

อานนท์ ยังพูดว่า ได้รับการติดต่อสายจากพรรคเพื่อไทย ว่าไม่เกินพรุ่งนี้บรรดาฝ่ายค้านทุกพรรค จะแถลงการณ์สนับสนุนการต่อสู้ของ #ตะวันแบม ทั้งยังระบุเหตุว่า พรรคก้าวไกลจะเสนอให้แก้ไข ม.112 ก้าวไกล เป็นมาตรฐานต่ำสุด และหากเป็นไปได้ คือ การยกเลิก

ตะวัน-แบม อดอาหาร

“[ตุลาการ] ลองส่องกระจกมองดูตัวเอง ว่า ณ วันนี้ พวกคุณยังทำงานอยู่บนจรรยาบรรณทางอาชีพหรือเปล่า”

วันนี้ (26 มกราคม) มีมวลชนร่วม #ยืนหยุดขัง บนสกายวอล์คปทุมวัน เพื่อสนับสนุน 3 ข้อเรียกร้องของตะวัน–ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และแบม–อรวรรณ ภู่พงษ์ นักกิจกรรมที่ประกาศอดอาหาร

ระหว่างกิจกรรม มายด์—ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล แกนนำราษฎร ได้ขึ้นกล่าวบนเวที โดยกล่าวถึงฝ่ายตุลาการ ระบุว่า “ลองดูกระจกแล้วมองตัวเอง ว่า ณ วันนี้ พวกคุณยังทำงานอยู่บนจรรยาบรรณทางอาชีพหรือเปล่า พวกคุณยังยึดมั่นตามหลักการเมื่อครั้งที่พวกคุณเรียนก่อนหน้าที่จะมาทำงานหรือเปล่า ว่าพวกคุณจำเป็นที่จะต้องยังอยู่ไว้ซึ่งความยุติธรรมในประเทศนี้ เพื่อให้คนทุกคนเป็นคนเท่าเทียมกันจริงๆคุณยังทำแบบนั้นอยู่หรือเปล่า?

“ตุลาการต้องละอายใจบ้าง ที่คน 3 คน [ตะวัน–แบม–สิทธิโชค] ต้องเอาต้นทุนชีวิตของเขามาแลก กับการมาบืนยันว่า กระบวนการยุติธรรมตอนนี้มันไม่ยุติธรรม และมันต้องเกิดการปฏิรูป

“หลายคนคงมีข้อสงสัยกับสิ่งที่พวกเขาเรียกร้อง มันไม่ผิดเลย เราทุกคนต่างใช้วิธีการใดก็ได้ แต่สิ่งสำคัญที่เราต้องสนใจ คือข้อเรียกร้องที่พวกเขายื่น ที่เรียกร้องให้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม หยุดดำเนินคดีทางการเมืองกับประชาชน และเรียกร้องให้พรรคการเมืองที่อยากเสนอตัวมาเป็นผู้แทน ต้องยกเลิก ม.112-ม.116 ข้อเรียกร้องเหล่านี้ต่างหากที่เราต้องให้ความสนใจ

“คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อ แต่คุณต้องสนใจและวิเคราะห์มัน ถ้าเห็นด้วย ก็ต้องเป็นส่วนนึงที่ส่งเสียงร่วมมือกับพวกเขา” มายด์ย้ำ

ที่มา TheMatter.co

มิเชลโหย่วลุ้นออสการ์

มิเชล โหย่ว : ลุ้นนักแสดงหญิงเอเชียคนแรกที่ชนะรางวัลออสการ์ หลังคว้าลูกโลกทองคำสำเร็จ

มิเชลโหย่วได้ออสการ์ สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแสดงหญิงเชื้อสายเอเชียคนที่ 2 ที่ชนะรางวัลดาราหญิงยอดเยี่ยม รางวัลลูกโลกทองคำ ทำให้ผู้สังเกตการณ์ตั้งความหวังว่า เธอบางทีอาจกลายเป็นนักแสดงหญิงเอเชียคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่คว้ารางวัลผู้แสดงฝ่ายหญิงยอดเยี่ยมของออสการ์

มิเชล โหย่ว ผู้แสดงฝ่ายหญิงเชื้อสายมาเลเซีย ชนะรางวัลลูกโลกทองคำ จากบทบาทดารานำในภาพยนตร์เรื่อง “ซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์ส” หรือ “Everything Everywhere All At Once” จากเวทีประกาศรางวัลลูกโลกทองคำ ครั้งที่ 80 ในปีนี้ ซึ่งเป็นปีแรกที่ถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์ตามเดิมอีกครั้ง

“มันเป็นทางที่ยอดเยี่ยม แล้วก็การต่อสู้ที่สุดยอด ที่ได้มาอยู่ที่ตรงนี้” มิเชล โหย่ว กล่าว

นักแสดงหญิงมากมายฝีมือวัย 60 ปี สวมบทเป็น เอเวอลีน หวัง ผู้อพยพคนจีนที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ และเป็นเจ้าของร้านรับซักผ้า

โหย่ว ถือเป็นนักแสดงเชื้อสายเอเชียคนที่ 2 ที่ชนะรางวัลลูกโลกทองคำ โดยคนแรกคือ อควาฟินา ในภาพยนตร์เรื่อง the Farewell ในปี 2020

การคว้ารางวัลของโหย่ว ทำให้ทั่วโลกต่างแสดงความยินดีในโลกออนไลน์ โดยชื่นชมว่า ฝีมือการแสดงของเธอควรค่าแก่รางวัลนี้ และแฟนคลับของเธอหวังว่า การคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ จะปูทางและเพิ่มโอกาสให้เธอคว้ารางวัลนักแสดงยอดเยี่ยม ในการประกาศรางวัลออสการ์

โหย่ว ซึ่งเริ่มอาชีพการแสดงจากฮ่องกง ในช่วงทศวรรษที่ 1980s ได้กล่าวถึงชีวิตในช่วงแรก ๆ ในม่านฮอลลีวูดของเธอ ระหว่างการปราศรัยรับรางวัล

มิเชลโหย่วได้ออสการ์ มิเชล โหย่ว

“ฉันจำได้ว่า ครั้งแรกที่เข้ามาในฮอลลีวูด มันคือฝันที่เป็นจริง เพราะดูใบหน้าฉันสิ ฉันมาถึงแล้วผู้คนก็บอกฉันว่า ‘เธอมันแค่คนชนกลุ่มน้อย’”

โหย่ว ระบุว่า เธอขอมอบรางวัลอันทรงเกียรตินี้แก่เหล่านักแสดงที่เป็นชนกลุ่มน้อยในแวดวงฮอลลีวูด “และนี่คือรางวัลแด่เหล่านักแสดงที่เคียงบ่าเคียงไหล่ฉันมา รวมถึงเหล่าผู้ที่เข้าวงการมาก่อนฉัน และเหล่าผู้ที่จะเดินหน้าไปตามเส้นทางนี้ต่อไปพร้อมกับฉัน”

โหย่ว มีชื่อเสียงจากบทบาทการแสดงบทบู๊ในภาพยนตร์แอคชันในประเทศฮ่องกง ในระดับเดียว เฉิน หลง เพราะเหตุว่าเธอสวมบทสตั๊นท์ด้วยตนเอง

เธอเริ่มเป็นที่รู้จักในรูปภาพยนตร์ตะวันตก จากบทบาทในรูปภาพยนตร์ เจมส์ บอนด์ หรือ พยัคฆ์ร้าย 007 ในภาค “Tomorrow Never Dies” ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเปิดตัวแรกในภาพยนตร์ฮอลลีวูด ถัดมาก็คือหน้าที่ในภาพยนตร์ พยัคฆ์ระห่ำ มังกรลำพองโลก ที่ชนะรางวัลออสการ์

ไม่กี่ปีมานี้ เธอยังประกาศตัวในภาพยนตร์ทุนสร้างใหญ่อย่าง Crazy Rich Asians และก็ ชาง-ชี กับตำนานลับเท็นริงส์ ในจักรวาลมาร์เวล

หาก โหย่ว คว้ารางวัลออสการ์ได้สำเร็จ จะถือเป็นผู้แสดงสัญชาติเอเชียคนแรกที่ชนะรางวัลออสการ์ โดยรายนามคู่แข่งขันรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 95 จะประกาศในเดือน เดือนมกราคม ก่อนที่จะจัดงานประกาศรางวัลในเดือน มี.ค. เนื่องจากว่าที่แล้วมา คนเอเชียที่ชนะรางวัล จะเป็นสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม และนักแสดงส่งเสริมยอดเยี่ยมเพียงแค่นั้น ยังไม่เคยมีคนเอเชียที่ชนะรางวัลนักแสดงชาย หรือหญิงยอดเยี่ยมมาก่อน

คนเชื้อสายเอเชียที่ชนะรางวัลออสการ์มาแล้ว คือ บง จุน-โฮ ด้วยรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม จากผลงานภาพยนตร์ ปรสิต ในปี 2019 ซึ่ง ปรสิต ยังชนะรางวัลใหญ่อื่นๆอีก 3 รางวัลด้วย

ช่วงเวลาที่เมื่อปี 2020 โคลอี จ้าว ผู้กำกับเชื้อสายเอเชีย เอารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์ Nomadland ในเวลาที่ ผู้แสดงอาวุโส ยูน ยอจอง ชาวเกาหลีใต้ ได้รางวัลออสการ์ สาขาผู้แสดงส่งเสริมยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์ Minari

มิเชล โหย่ว “ดูใบหน้าฉันสิ” จากลูกโลกทองคำ-ลุ้นรางวัลออสการ์

“มันเป็นเส้นทางที่ยอดเยี่ยม เป็นการต่อสู้ที่สุดยอดที่ได้มาอยู่ตรงนี้” มิเชล โหย่ว นักแสดงหญิงเชื้อสายมาเลเซีย กล่าวขณะขึ้นรับรางวัลลูกโลกทองคำ หรือ Golden Globes Awards ครั้งที่ 80 กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่เบเวอร์ลี ฮิลส์ โฮเทล นครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา

ตัวเก็งนักแสดงนำหญิงชาวเอเชียคนแรก

เวทีนี้ จัดโดยสมาคมสื่อมวลชนต่างประเทศฮอลลีวูด เป็นเวทีใหญ่ของวงการฮอลลีวูดที่เปิดฉากเทศกาลแจกรางวัล ซึ่งจะไปจบที่เวทีออสการ์ หรือ Academy Awards ครั้งที่ 95 วันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม 2023 หรือตรงกับเช้าวันจันทร์ที่ 13 ของไทย

มิเชลโหย่ว

มิเชลโหย่วได้ออสการ์ TIME เลือก “มิเชล โหย่ว” ดีเด่นแห่งปี

ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ไทม์-TIME สื่อนิตยสารมีชื่อของสหรัฐอเมริกา ประกาศผลการคัดบุคคลเด่นแห่งปี 2022 รวมทั้งสาขา ICON OF THE YEAR ตัวอย่างเช่น มิเชล โหย่ว ในฐานะดาราหนังคนที่ใครๆก็รู้จักจากแวดวงภาพยนตร์เอเชียสู่ดาราหนังแถวหน้าของแวดวงฮอลลีวูด

ไทม์กล่าวว่า มิเชลเปิดตัวในแวดวงฮอลลีวูดในทศวรรษที่ 1990 และก็ทราบถึงเส้นทางเร็วที่จะยืนหยัดอยู่ในแวดวงได้ แล้วก็เป็นวิถีทางที่ถูก ด้วยเหตุผลดังกล่าวถึงแม้มีข้อเสนอต่างๆเข้ามาไม่ขาดสาย แต่ดาราเชื้อสายมาเลเซียปฏิเสธทุกบทที่จะส่งผล “ลบ” ต่อผู้หญิงเอเชีย

“ฉันมองเพื่อนๆเคต แบลนลานเชตต์ และโอลิเวีย โคลแมน รวมทั้งเฮเลน มีร์เรน ฉันรู้สึกอิจฉาริษยาที่เพื่อนๆมีโอกาสแสดงครั้งแล้วครั้งเล่า” มิเชลเปิดใจกับไทม์ และก็ว่าตัวเองทุ่มเททุกอย่าง สวมบทเป็นเอเวอลีน หวัง ในภาพยนตร์ Everything Everywhere All At Once

มิเชลคิดว่า เมื่อได้รับโอกาสแบบนี้ก็จะต้องทุ่มเทสุดหัวใจแล้วก็วิญญาณ เนื่องจากไม่รู้จักว่าจะมีโอกาสหน้าเมื่อไร มีความคิดว่าความกลัวที่สุดคือ จะต้องไม่ปล่อยให้เป็นเพียงโอกาสเดียวเท่านั้น

สำหรับเวทีออสการ์ ยังไม่เคยมีนักแสดงเอเชียได้รับรางวัลผู้แสดงนำฝ่ายหญิงยอดเยี่ยมมาก่อน

“ฉันคิดเรื่องนี้มาตลอด ไม่ใช่เฉพาะกับฉันนะคะ ฉันรู้สึกว่าชุมชนชาวเอเชียต่างคิด พวกเขาเดินมาหาฉันและพูดว่า คุณกำลังทำให้พวกเรานะ” นักแสดงหญิงแกร่งกล่าว

สรุปผลรางวัลลูกโลกทองคำ ครั้งที่ 80

ภาพยนตร์ประเภทเพลงหรือตลกยอดเยี่ยม: The Banshees of Inissherin

ภาพยนตร์ประเภทดรามายอดเยี่ยม: The Fabelmans

กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม: สตีเวน สปีลเบิร์ก (The Fabelmans)

บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม: มาร์ติน แมคโดนา (The Banshees of Inissherin)

ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม: Argentina, 1985 (Argentina)

ภาพยนตร์แอนนิเมชันยอดเยี่ยม: Pinocchio (Guillermo del Toro)

นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประเภทดรามา: ออสติน บัตเลอร์ (Elvis)

นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทดรามา: เคต แบลนเชตต์ (Tar)

นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์เพลงหรือตลก: โคลิน ฟาร์เรล (The Banshees of Inissherin)

นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์เพลงหรือตลก: มิเชล โหย่ว (Everything Everywhere All At Once)

นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม: คี ฮุย ควน (Everything Everywhere All At Once)

นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม: แองเจลา บาสเซตต์ (Black Panther: Wakanda Forever)

Avatar The Way of Water

Avatar: The Way of Water รายได้ทะลุ 2 พันล้านเรื่องที่ 6 ในประวัติศาสตร์

ยังแรงไม่หยุด Avatar: The Way of Water ทำรายได้ทะลุ 2 พันล้านเหรียญ ในเวลาเพียงแค่ 39 วัน ขึ้นแท่นหนังเรื่องที่ 6 ของโลกแค่นั้นที่สามารถทำเงินได้ในระดับนี้

หลังจากเข้าฉายมาได้เพียงแค่ 6 อาทิตย์ ภาพยนตร์อวตาร ภาค 2 “Avatar: The Way of Water” หรือ “อวตาร วิถีแห่งสายน้ำ” ก็ทำรายได้ทะลุ 2,000 ล้านดอลลาร์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 6 ในประวัติศาสตร์ของวงการภาพยนตร์เท่านั้นที่สามารถทำรายได้จากการขายตั๋วได้สูงระดับนี้

โดยเรื่องที่ทำรายได้ทะลุ 2,000 ล้านเหรียญไปก่อนหน้านี้ ได้แก่Avatar, Avengers: Endgame, Titanic, Star Wars: The Force Awakens และ Avengers: Infinity War

จากรายนามที่เห็นเท่ากับว่า เจมส์ คาเมรอน เป็นผู้กำกับเพียงผู้เดียวของโลกที่ทำหนังรายได้ทะลุ 2 พันล้านถึง 3 เรื่องด้วยกัน คือ Avatar1, 2 และ Titanic

ในส่วนของดาราหนังนั้น โซอี้ ซัลดานา ซึ่งรับบท “เนย์ทิรี” ในภาพยนตร์ อวตาร และบท “กามอรา” ในหนังซูเปอร์ฮีโร่ ของมาร์เวล ก็กลายเป็นผู้แสดงเพียงคนเดียวของโลกเหมือนกันที่ได้แสดงหนังระดับ 2 พันล้าน ถึง 4 เรื่อง จากทั้งหมด 6 ได้แก่ Avatar, Avatar: The Way of Water, Guardians of the Galaxy, Avengers: Endgame และ Avengers: Infinity War

Box Office Mojo กล่าวว่าในขณะนี้ The Way of Water ทำรายได้ทั้งโลกอยู่ที่ 2,024 ล้านดอลลาร์ ตามหลังหนังทำเงินอันดับ 4 และ 5 ของโลกอย่าง Star Wars: The Force Awakens” (2,071 ล้านดอลลาร์) และ Avengers: Infinity War (2,052 ล้านดอลลาร์) อยู่เพียงนิดหน่อยเพียงแค่นั้น และมีลัษณะทิศทางว่าจะแซงได้ในเวลาไม่นานเนื่องจากจนกระทั่งเวลานี้ อวตาร 2 ยังครองอันดับ 1 หนังทำเงินในแถบ อเมริกาเหนือ มาติดต่อกันเป็นอาทิตย์ที่ 6 แล้ว เรียกว่าความแรงยังไม่ลดน้อยลงแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่ “อวตาร วิถีแห่งสายน้ำ” หรือ The Way of Water จะเข้าฉาย เจมส์ คาเมรอน ได้ให้สัมภาษณ์ นิตยสารจีคิว เอาไว้ว่า Avatar2 นับว่าเป็น “กรณีตัวอย่างที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์” เพราะจะต้องทำรายได้ติดอันดับ 1 ใน 4 ของหนังที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลถึงจะเรียกว่าคุ้มค่ากับการลงทุน

ในขณะที่นักวิเคราะห์เห็นว่า “จุดคืนทุน” ของหนังเรื่องนี้คงจะอยู่ที่ประมาณ1,500 ล้านดอลลาร์ ด้วยความที่เป็นภาพยนตร์ที่ใช้ CG ทั้งเรื่องก็เลยมีต้นทุนสูงมาก

ตอนนี้ Avatarภาคแรกที่ออกฉายเมื่อ 13 ปีกลาย ยังดำรงตำแหน่ง “หนังทำเงินสูงสุดตลอดกาล”เอาไว้ได้ที่ 2,900 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วย Avengers: Endgame อันดับ 2 ที่ 2,790 ล้านดอลลาร์ อันดับ 3เป็นTitanic ด้วยรายได้ 2,190 ล้านดอลลาร์

 

Avatar รายได้ทะลุ 2 พันล้าน
ความเป็นจริงน่าทึ่งของ Avatar: The Way of Water (อวตาร วิถีที่สายน้ำ)

เป็นหนังที่ทำรายได้แตะต้องหลัก 2 พันล้านดอลลาร์ ได้เร็วที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจาก Avengers: Endgame ทำได้ในเวลาแค่ 39 วัน เร็วกว่าAvatar ภาคแรก 6 วัน

ด้วยรายได้ทั้งโลก 2,024 ล้านเหรียญ ทำให้ The Way of Water กลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลอันดับ 6 แต่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 4 ได้ภายในอาทิตย์นี้

Hollywood Reporter แถลงการณ์ว่า The Way Of Water ใช้งบประมาณสำหรับเพื่อการสร้างกว่า 350 ล้านเหรียญ ไม่นับรวมค่าการตลาด และค่าประชาสัมพันธ์อีกหลาย สิบล้านเหรียญ ทำให้แปลงเป็นหนึ่งในหนังที่มีต้นทุนสูงที่สุด เท่าที่เคยมีการสร้างกันขึ้นมา
Avatar 2 เปิดตัวด้วยรายได้ที่น่าผิดหวังในตลาดสหรัฐอเมริกาหมายถึง134 ล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าจำนวนคาดการณ์ของทุกฝ่าย แต่กลับทำรายได้ทะลุ 1,000 ล้านเหรียญในเวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์หลังออกฉาย

ปัจจุบันนี้Avatar: The Way Of Water ครอบครองอันดับ 1 แชมป์บ็อกซ์ ออฟฟิศมาเป็นเวลามากถึง 6 สัปดาห์แล้ว

 

The Way of Water รายได้ทะลุ 2 พันล้าน
เปิดคอนเซ็ปต์Avatar 4 และ 5 จัดเตรียมพบการเปลี่ยนผ่านช่วงเวลา-กลับสู่โลกที่ล่มสลาย

ดูประหนึ่งว่ามหากาพย์Avatar ที่ยืนยาวถึง 5 ภาค กับช่วงเวลามากกว่า 20 ปี จะถูกวางแผนเอาไว้หมดแล้วว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เหลือเพียงกระแสตอบรับจากแฟนๆเท่านั้นที่จะเป็นตัวชี้ชะตาว่ามันจะได้ไปต่อหรือเปล่า หลังจากที่ในภาคแรก แนะนำให้พวกเรารู้จักกับโลกใบใหม่ ภาคที่ 2 ก็ได้เริ่มปูทางแนะนำนักแสดงใหม่ๆก่อนที่ภาค 3 จะลงลึกถึงความเกี่ยวพันระหว่างเชื้อสายต่างๆใน ดาวแพนดอร่า อันแสนสวยสดงดงาม และตอนนี้พวกเขาเริ่มแง้มให้เรารู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นใน 2 ภาคสุดท้ายของเรื่องราวแล้วด้วย

สำหรับในการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Empire โปรดิวเซอร์ จอน แลนเดา ได้บอกใบ้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในช่วงท้ายของมหากาพย์ Avatar ทั้งการ Time Skip หรือการเปลี่ยนผ่านช่วงเวลา และการนำพวกเรากลับไปยังดาวโลก เขาเล่าถึงเรื่องเหล่านี้เอาไว้ว่า

“หลังจากที่เกิดการเปลี่ยนผ่านช่วงเวลาครั้งใหญ่ในAvatar 4 ในภาคสุดท้ายเราจะกลับไปที่โลกกันครับ มันจะเป็นเรื่องราวของดาวโลกที่ถูกตัดไปจากหนังภาคแรก นำเสนอโลกที่ล่มสลายอย่างสิ้นเชิง ทั้งปัญหาประชากรล้นโลก และการขาดแคลนทรัพยากรขั้นวิกฤตที่ทำให้การใช้ชีวิตเป็นเรื่องยาก แต่เราไม่ได้อยากจะให้ภาพเหล่านั้นออกมาสิ้นหวังและไร้ชีวิตชีวาขนาดนั้น หนังชุดนี้จะเกี่ยวข้องกับความเป็นไปได้ที่เราจะแก้ไขมันด้วยครับ”

หากเป็นแบบนั้นจริง ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า เราจะได้เห็นเหล่าเด็ก ๆ รุ่นใหม่ที่ถูกแนะนำตัวในภาคนี้เติบโตขึ้น และกลายเป็นตัวละครหลักในการดำเนินเรื่องอย่างแน่นอน สิ่งเหล่านี้จะถูกผลักดันมากยิ่งขึ้นเพราะในภาคที่ 3 จะมีการโชว์ด้านมืดของชาวนาวี ขณะเดียวกันก็จะแสดงให้เห็นด้านที่ดีมากขึ้นของมนุษย์ด้วย ทั้งหมดล้วนนำไปสู่บทสรุปทั้งสิ้น ชวนให้น่าตื่นเต้นไม่น้อยเลยทีเดียวว่าหลังจากนี้จะมีอะไรรอพวกเราอยู่บ้าง

ตำรวจซ้อนแผนจับ เจ้าหน้าที่สรรพสามิต

งามหน้า! เปิดนาที ตร.ซ้อนแผนจับ เจ้าหน้าที่สรรพสามิต รีดเงินร้านขายมือถือ 3 แสน

เปิดนาทีตำรวจซ้อนแผนจับ “เจ้าหน้าที่สรรพสามิต” อุ้มพนักงานร้านขายมือถือขึ้นรถ รีดเงิน 3 แสนบาท

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 18 เดือนมกราคม 2566 MR.WU อายุ 31 ปี ชาวจีน เดินทางเข้าแจ้งความกับ ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ภายหลังจากชายฉกรรจ์ อ้างถึงว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของ กรรมสรรพสามิต เข้ามาขอตรวจค้นด้านในร้าน จำหน่ายอุปกรณ์ โทรศัพท์มือถือ

ก่อนที่จะจับ ผู้จัดการร้าน ลูกน้อง ชาวพม่า ขึ้นรถไป พร้อมกับเรียก เก็บเงินกว่า 3 แสนบาท แลกเปลี่ยนกับการปล่อยตัว เหตุเกิดที่ตึกแถว เลขที่ ตำบล ด้านหลังบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ

 

อุ้มพนักงานร้านขายมือถือขึ้นรถ
MR.WU บอกว่า ตัวเองเป็นน้องชาย เจ้าของร้าน เปิดขาย อุปกรณ์มือโทรศัพท์มือถือมานานแล้ว

แต่ก่อนเคยเปิดอยู่ในห้าง ก่อนที่จะย้ายมาเปิดเช่าห้องแถว ที่เขต ซอยอู่ทอง ถัดมา ระหว่างนี้ตัวเองจะมีหน่วยงานราชการ ตนเองไม่ขอเอ่ยว่า เป็นหน่วยงานใด เข้ามาเก็บค่าลิขสิทธิ์ ที่้ร้านอยู่หลายครั้ง ซึ่งตนเองก็ยอมจ่ายไป เนื่องมาจากไม่ได้อยากต้องการมีปัญหา

จนกระทั่งช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่ตัวเองไม่อยู่ โดยมีน้อง และ ลูกจ้างหญิง ชาวพม่า เฝ้าร้านอยู่กันสองคน มีชายฉกรรจ์ 6-7 คน อ้างว่า กรมสรรพสามิต ขับขี่รถมาหยุดหน้าร้าน ก่อนที่จะเข้ามา ขอตรวจค้นที่ร้าน พร้อมกับพูดว่า อุปกรณ์ ที่จัดจำหน่ายอยู่ไม่ถูกกฎหมาย เลี่ยงภาษี

ก่อนที่จะจับกุมตัวน้อง และลูกจ้างขึ้นรถไป กระทั่งกลุ่มดังกล่าว ติดต่อมาหาตนว่า ต้องเสียค่าปรัก กว่า 3 แสนบาท ถัดมาได้มีการต่อลองลงมา จนกระทั่งเหลือ 5 หมื่นบาท แต่ตนเองเกรงว่าจะน้อง จะไม่ปลอดภัย และไม่มั่นใจว่า เป็นเจ้าหน้าที่ใช่หรือไม่ จึงเดินทางมาแจ้งเหตุที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ

หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ฝ่าย สืบสวน นำโดย พ.ต.ต.ชัชพงศ์ ขาวสะอาด สว.สส.สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้นัดหมาย กับผู้เสียหาย ให้บอกคุยกับทาง กลุ่มชายฉกรรจ์ และบอกว่า จะนำเงินไปให้ตามตกลง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ จะซ้อนแผนเข้าจับกุมตัว มีการนัดมอบเงินกันที่ บริเวณปั๊มน้ำมัน ริมทางสุขุมวิท ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองสมุทรปราการ

โดยแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปแอบซุ่ม ข้างโรงเรียนนายเรือ ถนนหนทางสุขุมวิท ตำบลปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ โดยแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปดักซุ่มคอยกระทั่งถึงเวลานัดหมาย เจอรถยนต์ปิ๊กอัพ โตโยต้า รีโว่ สีบรอนเงิน ทะเบียน 3 ขฌ 8533 หยุดอยู่ในปั้ม และมีผู้เสียหาย ทั้งสองคน นั่งอยู่ในรถยนต์ด้วย

จากนาย MR.WU จึงนำซองกระดาษ ข้างในมีเงินกว่า 5 หมื่นบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ถ่ายเอกสาร ไว้เป็นหลักฐานแล้ว เดินลงจากรถยนต์ ไปมอบให้กับกลุ่มชายฉกรรจ์ กระทั่งได้สัญญาณ ตำรวจ เข้าไปล้อมขอค้น

 

เจ้าหน้าที่ สรรพสามิต รีดเงิน 3 แสนบาท
พบว่าในรถมีชาย 3 คน อ้างว่าตัวเองเป็น เจ้าหน้าที่สรรพสามิต

ส่วนเงินที่เจอในรถยนต์อ้างว่าผู้เสียหายนำมาให้ เพื่อจะไปเสียค่าปรับ แต่เจ้าหน้าที่ ไม่เชื่อจึงนำตัวชายทั้งสามคนมาไต่สวน ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ

ทั้งนี้จากการตรวจทานในรถยนต์ พบบัตรราชการ ของ ป.ป.ส.ระบุชื่อ นายสวโรจน์ โฉมงาม ระบุตำแหน่ง เจ้าพนักงาน ชำนาญงาน สังกัด กรมสรรพสามิต อยู่บนรถยนต์ และยังพบเสื้อกั๊กสีดำซึ่งติดโลโก้ของ กรมสรรพสามิต 2 ตัว วางอยู่ในรถยนต์ด้วย

สอบถาม น.ส.มลธิลา ใจพรม 21 ปี ผู้จัดการร้าน พูดว่า ขณะที่ตัวเองนั่งอยู่ในร้าน มีชายฉกรรจ์มากว่า 6-7 คน สวมเสื้อกั๊กติดตราของ กรมสรรพสามิต เข้ามาในร้าน ขอตรวจค้น และบอกว่าตัวเองขายของหนีภาษี

ก่อนที่จะพาตนเองขึ้นรถไป ถัดมาชายทั้งสามคน พาตนไปจอดรถยนต์อยู่ รอบๆหน้าที่ทำการ กรมสรรพสามิต ใกล้ศาลากลางจังหวัด สมุทรปราการ แต่ไม่ได้พาเข้าไปในสำนักงาน

ต่อมา กลุ่มชายดังกล่าว ข่มขู่ว่าว่าถ้าเกิดไม่นำเงิน 3 แสนบาทมาจ่ายค่าปรับตามตกลง หากถูกตำรวจจับจะเรื่องสำคัญกว่านี้ และต้องขึ้นศาล ด้วยความกลัวตนเองก็เลย โทรไปพบเจ้าของร้าน และเล่าเนื้อหาให้ฟัง จนกระทั่งมีการต่อลองจนราคาต่ำลง 8 หมื่นบาท แต่ทางเจ้าของร้านมี 5 หมื่น ก่อนที่จะมีการนัดหมาจ่ายเงินกัน ที่ปั้ม ปตท.

สอบสวนเบื้องต้น รู้ดีว่า ชายที่โดนจับได้ เป็นเจ้าหน้าที่ของ กรมสรรพสามิต 2 คน สังกัด สรรพสามิตส่วนกลางเป็นสำนักตรวจสอบป้องกัน และปราบปราม หรือเรียกว่า (สตป.) และ พลเรือน 1 คน ส่วนรายละเอียด อยู่ระหว่างการสอบสวน

ทั้งนี้ยังเจออีกว่า มีรถยนต์อีกคัน ซึ่งน่าจะเป็นของกลุ่มที่เหลือ หลังพบตำรวจ พากันขับหนีไปก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดเรียกตัวมาสืบสวนถัดไป

ตำรวจซ้อนแผนจับ เจ้าหน้าที่สรรพสามิต

งามหน้า! เปิดนาที ตร.ซ้อนแผนจับ เจ้าหน้าที่สรรพสามิต รีดเงินร้านขายมือถือ 3 แสน

เปิดนาทีตำรวจซ้อนแผนจับ “เจ้าหน้าที่สรรพสามิต” อุ้มพนักงานร้านขายมือถือขึ้นรถ รีดเงิน 3 แสนบาท

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 18 เดือนมกราคม 2566 MR.WU อายุ 31 ปี ชาวจีน เดินทางเข้าแจ้งเหตุกับ ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ภายหลังจากชายฉกรรจ์ อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของ กรรมสรรพสามิต เข้ามาขอตรวจค้นภายในร้าน จัดจำหน่ายอุปกรณ์ โทรศัพท์มือถือ

ก่อนที่จะจับ ผู้จัดการร้าน ลูกน้อง ชาวพม่า ขึ้นรถไป พร้อมทั้งเรียก เก็บเงินกว่า 3 แสนบาท แลกกับการปล่อยตัว เหตุเกิดที่ตึกแถว เลขที่ ต. ด้านหลังบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ

 

อุ้มพนักงานร้านขายมือถือขึ้นรถ
MR.WU พูดว่า ตนเองเป็นน้องชาย เจ้าของร้าน เปิดขาย อุปกรณ์มือโทรศัพท์มือถือมานานแล้ว

แต่ก่อนเคยเปิดอยู่ในห้าง ก่อนที่จะย้ายมาเปิดเช่าห้องแถว ที่เขต ซอยอู่ทอง ต่อมา ระหว่างนี้ตัวเองจะมีหน่วยงานราชการ ตนเองไม่ขอเอ่ยว่า เป็นหน่วยงานใด เข้ามาเก็บค่าลิขสิทธิ์ ที่้ร้านอยู่หลายครั้ง ซึ่งตนเองก็ยอมจ่ายไป ด้วยเหตุว่าไม่ได้อยากมีปัญหา

จนถึงช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่ตนเองไม่อยู่ โดยมีน้อง และ ผู้รับจ้างหญิง ชาวเมียนมาร์ เฝ้าร้านอยู่กันสองคน มีชายฉกรรจ์ 6-7 คน อ้างว่า กรมสรรพสามิต ขับรถมาจอดหน้าร้าน ก่อนที่จะเข้ามา ขอค้นที่ร้าน กับกล่าวว่า อุปกรณ์ ที่ขายอยู่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เลี่ยงภาษี

ก่อนที่จะจับกุมน้อง และลูกจ้างขึ้นรถไป กระทั่งกลุ่มดังกล่าว ติดต่อมาหาตนว่า จะต้องเสียค่าปรัก กว่า 3 แสนบาท ต่อมาได้มีการต่อลองลงมา กระทั่งเหลือ 5 หมื่นบาท แต่ตนเองเกรงว่าจะน้อง จะไม่ปลอดภัย และไม่มั่นใจว่า เป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ ก็เลยเดินทางมาฟ้องร้องที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ

หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ฝ่าย สืบสวน นำโดย พ.ต.ต.ชัชพงศ์ ขาวสะอาด สว.สส.สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้นัดหมาย กับผู้เสียหาย ให้พูดคุยกับทาง กลุ่มชายฉกรรจ์ และบอกว่า จะนำเงินไปให้ตามตกลง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ จะซ้อนแผนเข้าจับตัว มีการนัดมอบเงินกันที่ รอบๆปั๊มน้ำมัน ข้างทางสุขุมวิท ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ

โดยแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปดักซุ่ม ข้างโรงเรียนนายเรือ ถนนหนทางสุขุมวิท ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ โดยแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปแอบซุ่มรอกระทั่งถึงเวลานัดหมาย พบรถยนต์ปิ๊กอัพ โตโยต้า รีโว่ สีบรอนเงิน ทะเบียน 3 ขฌ 8533 จอดอยู่ในปั้ม และมีผู้เสียหาย ทั้งสองคน นั่งอยู่ในรถด้วย

จากนาย MR.WU จึงนำซองกระดาษ ภายในมีเงินกว่า 5 หมื่นบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ถ่ายเอกสาร ไว้เป็นหลักฐานแล้ว เดินลงจากรถ ไปมอบให้กับกลุ่มชายฉกรรจ์ จนถึงได้สัญญาณ ตำรวจ เข้าไปล้อมขอค้น

 

เจ้าหน้าที่ สรรพสามิต รีดเงิน 3 แสนบาท
พบว่าในรถยนต์มีชาย 3 คน อ้างว่าตนเองเป็น เจ้าหน้าที่สรรพสามิต

ส่วนเงินที่พบในรถยนต์กล่าวถึงว่าผู้เสียหายนำมาให้ เพื่อจะไปเสียค่าปรับ แต่เจ้าหน้าที่ ไม่เชื่อก็เลยนำตัวชายทั้งสามคนมาไต่สวน ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ

ทั้งนี้จากการสำรวจในรถยนต์ พบบัตรราชการ ของ ป.ป.ส.ชื่อ นายสวโรจน์ โฉมงาม ระบุตำแหน่ง เจ้าพนักงาน ชำนาญงาน สังกัด กรมสรรพสามิต อยู่บนรถยนต์ และยังพบเสื้อกั๊กสีดำซึ่งติดโลโก้ของ กรมสรรพสามิต 2 ตัว วางอยู่ในรถด้วย

ซักถาม น.ส.มลธิลา ใจพรม 21 ปี ผู้จัดการร้าน พูดว่า ขณะที่ตัวเองนั่งอยู่ในร้าน มีชายฉกรรจ์มากว่า 6-7 คน ใส่เสื้อกั๊กติดตราของ กรมสรรพสามิต เข้ามาในร้าน ขอตรวจหา และพูดว่าตนเองขายของเถื่อน

ก่อนที่จะพาตัวเองขึ้นรถไป ต่อมาชายทั้งสามคน พาตนไปหยุดรถยนต์อยู่ รอบๆหน้าที่ทำการ กรมสรรพสามิต ใกล้ศาลากลางจังหวัด สมุทรปราการ แต่ไม่ได้พาเข้าไปในที่ทำการ

ถัดมา กลุ่มชายดังกล่าว ข่มขู่ว่าว่าถ้าหากไม่นำเงิน 3 แสนบาทมาจ่ายค่าปรับตามตกลง หากถูกตำรวจจับจะเรื่องสำคัญกว่านี้ และจำเป็นต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ด้วยความกลัวตนเองก็เลย โทรไปพบเจ้าของร้าน และเล่ารายละเอียดให้ฟัง จนถึงมีการต่อลองจนกระทั่งราคาน้อยลง 8 หมื่นบาท แต่ทางเจ้าของร้านมี 5 หมื่น ก่อนที่จะมีการนัดหมาจ่ายเงินกัน ที่ปั้ม การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย

สอบสวนพื้นฐาน ทราบดีว่า ชายที่ถูกจับได้ เป็นเจ้าหน้าที่ของ กรมสรรพสามิต 2 คน สังกัด สรรพสามิตส่วนกลาง คือ สำนักตรวจสอบป้องกัน และปราบปราม หรือเรียกว่า (สตป.) และ พลเรือน 1 คน ส่วนรายละเอียด อยู่ระหว่างการสอบสวน

ทั้งนี้ยังเจออีกว่า มีรถยนต์อีกคัน ซึ่งน่าจะเป็นของกลุ่มที่เหลือ หลังเจอตำรวจ พากันขับหนีไปก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามตัวมาสอบสวนต่อไป

1 เดอะลาสต์ออฟอัส The Last of Us

เดอะลาสต์ออฟอัส หมายเหตุ: บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของซีรีส์ตอนแรก

เดอะลาสต์ออฟอัส เรียกว่าเป็นซีรีส์ที่ใครหลายคนคอยดู สำหรับ The Last of Us ซีรีส์ระทึกขวัญเอาชีวิตรอดจาก HBO ที่ดัดแปลงแก้ไขมาจากเกมยอดฮิตในชื่อเดียวกันของค่ายผู้พัฒนา Naughty Dog โดยซีรีส์ได้ Neil Druckmann หนึ่ง ใน ผู้กำกับ เกมThe Last of Us Part I-II รวมทั้ง Craig Mazin ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของซีรีส์ยอดฮิตอย่าง Chernobyl (2019) มารับหน้าที่ เขียนบท รวมทั้ง ดูแล งานสร้าง พร้อมด้วยดารามากฝีมืออย่าง Pedro Pascal แล้วก็ Bella Ramsey มาร่วมสวมบทบาทนำ

เรื่องราวเริ่มขึ้น เมื่อ โลก จะต้องพบเจอ กับ เชื้อรา มรณะ ที่ แพร่กระจาย สู่ มนุษย์ จนกระทั่งทำให้ผู้ที่ติดเชื้อโรคกลายเป็นซอมบี้คลุ้มคลั่ง จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมานานกว่า 20 ปี Joel (Pedro Pascal) ชายหนุ่มที่รอดชีวิตมาจากเหตุการณ์ระบาดครั้งใหญ่และอาศัยอยู่ในเขตกักกันของกลุ่ม Fedra เขาได้รับภารกิจสำคัญจากกลุ่มกบฏ Fireflies ให้นำตัว Ellie (Bella Ramsey) เด็กผู้หญิงวัย 14 ปี ผู้กุมความลับสำคัญบางอย่างเอาไว้ไปส่งในสถานที่แห่งหนึ่ง Joel แล้วก็ Ellie จึงจำต้องออกเดินทางท่ามกลางโลกที่ล่มสลาย

ส่วนตัวคนเขียนไม่เคยมีโอกาสได้เล่นเกมต้นฉบับมาก่อน แม้กระนั้นเราก็พอจะได้ยินชื่อของเกมนี้มาพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณภาพของเนื้อเรื่องที่นำเสนอเรื่องราวของผู้แสดงออกมาได้อย่างลึกซึ้ง จนได้รับเสียงชื่นชมจากผู้เล่นอย่างล้นหลาม รวมทั้งส่งให้ตัวเกมนี้กวาดรางวัลจากเวทีเกมมาได้มากมาย โดยเฉพาะThe Last of UsPart II ที่เอารางวัลจาก The Game Awards 2020 มาได้ถึง 6 สาขา รวมถึงสาขาใหญ่ของงานอย่าง Game of the Year

จึง ไม่ แปลก นัก ที่ คอ เกม หลายคน ต่าง ตั้งตา รอชมThe Last of Us ฉบับ ซีรีส์ ไลฟ์แอ็กชัน เรื่องนี้ กัน อย่างเนืองแน่น โดย เฉพาะ เมื่อตัว ซีรีส์ ได้รับ เสียง ชื่นชม จากนักวิจารณ์ อย่าง เป็น เอกฉันท์ กับ คะแนนรีวิวบนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ที่สูงถึง 99% และคะแนนจากฝั่งผู้ชมทั่วไปที่สูงถึง 96%

2 เดอะลาสต์ออฟอัส The Last of Us

โดยความรู้สึกของผู้เขียนหลังจากได้ชม ตอนแรกจบ ก็เรียกได้ว่าทีมสร้างสามารถเอาชนะใจเราได้อย่างอยู่หมัดตั้งแต่ตอนแรกจริงๆ

ลักษณะเด่นข้อแรกที่เราอยากหยิบยกมากล่าวถึงคือ การดำเนินเรื่องของซีรีส์ที่ลำดับเรื่องราวและอารมณ์ของเรื่องได้น่าสนใจมากๆตั้งแต่การปูพื้นฐานให้เราได้รู้จักกับโลกของเชื้อรา อย่างครบบริบรูณ์ตั้งแต่ 30 นาทีแรกของเรื่อง ทั้งการอธิบายเกี่ยวกับเชื้อรามรณะว่ามันคืออะไร และความอันตรายของมันเป็นอย่างไร ก่อนที่ซีรีส์จะฉายภาพให้เราเห็นถึงวันแรกของการระบาดครั้งใหญ่ที่ชุลมุนวุ่นวาย ผ่านสายตาของผู้แสดงหลักอย่าง Joel รวมทั้งครอบครัว ที่จู่ๆก็จำต้องเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์ที่พวกเขาก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นจึงตัดสลับมาที่เรื่องราวในขณะนี้ เพื่อฉายภาพให้เรามีความคิดเห็นว่าการระบาดคราวนั้นก่อให้เกิดผลเสียมาถึงผู้คนในขณะนี้อย่างไร

ถึงแม้ว่าการลำดับเรื่องดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นจะไม่ได้มีความสลับซับซ้อนหรือมีจังหวะจะโคนที่หวือหวามากนัก แต่ว่ามันก็มีส่วนช่วยให้พวกเราทำความเข้าใจส่วนประกอบสำคัญต่างๆอีกทั้งเซ็ตติ้งของเรื่องแล้วก็ภูมิหลังของนักแสดงได้อย่างครบถ้วนบริบูรณ์ กระทั่งสามารถพาพวกเราไปสู่โลกที่ทีมสร้างอยากนำเสนอได้ในทันทีทันใด โดยที่ไม่จำเป็นต้องเคยมีประสบการณ์ร่วมกับตัวเกมต้นฉบับมาก่อน

3 เดอะลาสต์ออฟอัส The Last of Us

เดอะลาสต์ออฟอัส อีกหนึ่งข้อสำคัญที่ทีมสร้างนำเสนอได้ดีไม่แพ้กันคือ

บรรยากาศของเรื่องที่อบอวลไปด้วยความเครียดเอาจริงเอาจัง ไม่ได้มีฉากที่ดูยิ่งใหญ่หวือหวา หรือฉากไล่ล่าระทึกขวัญบีบหัวใจ ก็เลยทำให้เราสัมผัสได้ถึงความหดหู่และเหี้ยมโหดของโลกที่ล่มสลายได้อย่างชัดเจน ทั้งยังยังช่วยให้พวกเราสามารถโฟกัสไปที่เรื่องราวรวมทั้งอารมณ์ของผู้แสดงได้เต็มกำลัง ทั้งความสัมพันธ์ระหว่าง Joel แล้วก็ Sarah (Nico Parker) ผู้เป็นลูกสาว หรือแง่มุมเทาๆของเขาที่เห็นแก่ตัวด้วยเหมือนกัน รวมทั้งความเจ็บที่เขาต้องแบกรับมาตลอด 20 ปี

ซึ่งพวกเราต้องขอปรบมือให้กับ Pedro Pascal กับการถ่ายทอดมวลความรู้สึกของ Joel ที่น้อยแต่ว่ามาก ออกหมัดไม่มากมายแต่ว่าหนักแน่นทุกคราว จนกระทั่งทำให้พวกเราหลงรักและไม่บางทีอาจละสายตาไปจากตัวละครตัวนี้ได้จริงๆ

ทั้งหมดนี้คือความรู้สึกของนักเขียนที่มีต่อซีรี่ย์เรื่องนี้ตอนแรกเพียงแค่นั้น แต่ว่าด้วยการนำเสนอที่ชวนให้พวกเราก้าวเข้าสู่โลกของซีรีส์ได้ในทันที และตีบวกด้วยการแสดงอันดีของ Pedro Pascal ก็มากเพียงพอแล้วที่จะทำให้เราอยากติดตามต่อไปว่าการเดินทางของ Joel และ Ellie บนโลกที่เต็มไปด้วยความหมดหวังใบนี้จะเป็นอย่างไร

และสำหรับใครที่ไม่เคยเล่นเกมต้นฉบับมาก่อน ส่วนตัวสำหรับเรารู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นซีรีส์แนวตื่นเต้นเอาชีวิตรอดอีกหนึ่งเรื่องที่เราอยากชี้แนะ เนื่องด้วยกลวิธีนำเสนอที่เรากล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ ก็เลยทำให้เราสามารถอินไปกับเรื่องราวของผู้แสดงได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าพวกเราจะไม่ทราบจักนักแสดงหรือไม่เคยเล่นเกมต้นฉบับมาก่อนก็ตาม

สามารถรับชม The Last of Usตอนแรกได้แล้วทาง HBO GO และรับชมตอนใหม่ได้ทุกวันจันทร์

ที่มา TheStandard

จิ๊บ คีตภัทร อันติมานนท์

"จิ๊บ คีตภัทร" ขอเคลียร์ ปมคลิปฉาว ยันไม่ใช่ตัวเอง ฟ้องแน่ ทำเสียหาย

ผู้แสดงสาวยุค 90 “จิ๊บ คีตภัทร อันติมานนท์” โพสต์ IG ชี้แจงเรื่องข่าวหลุด ที่หลายคนเดาว่าเป็นตนเอง ยืนยันไม่ใช่ เพราะว่ามาหาครอบครัว ที่สหรัฐอเมริกา ลั่นดำเนินดคีแน่นอน ฐานทำให้ตนเกิดความเสียหาย ยันไม่ใช่ นางเอก จ. ถูกปล่อยคลิปลับ เจอเรียกเงิน 4 แสน จ่อเอาผิด คนกุข่าวมั่ว ทำเสียหาย เพื่อรักษาสิทธิ และความถูกต้องให้ถึงที่สุด

เป็นประเด็นร้อน สั่นสะเทือนวงการบันเทิง ภายหลังที่ผู้ใช้แอปพลิเคชั่น TikTok รายหนึ่ง ได้ออกมาอ้าง เปิดเผยข้อความว่า “มีข่าวหลุด!! อดีตนางเอกดังช่องหลายสี แอบไปซื้อหนุ่มนอกวงการกิน แล้วโดนหนุ่มอัดคลิป แบล็กเมล์ เรียกเงิน 4 แสน ล่าสุดมีคลิปหลุดออกมา เร็ว ๆ นี้ เจ้าตัวเตรียมตัวแถลงข่าวแน่นอน” ถัดมา ก็ได้โพสต์อีกว่า

“โดนแล้ว! อดีตนางเอกดัง ช่องหลายสี ชื่อย่อ จ. เข้าแจ้งความเอาผิดหนุ่มนอกวงการ หลังจากขายคลิปตนเอง ที่กำลังมีอะไรกัน ให้กลุ่มลับ กลุ่มหนึ่ง ในราคา 4 แสนบาท ซึ่งความยาวคลิปเต็ม 21 นาที มองเห็นหน้าตัวเองชัดเจน เลยทำให้เกิดความเสียหาย เจ้าตัวลั่น ไม่ยอมความ พร้อมเอาเรื่อง ให้ถึงที่สุด” จนกระทั่งทำให้เกิด การคาดเดากันไปต่าง ๆ นานา ว่าอดีตนางเอก จ. ช่องหลากสี นั้นคือคนไหนกันแน่ ซึ่งหนึ่งในนั้น ก็มีชื่อของ “จิ๊บ – คีตภัทร อันติมานนท์” ดาราหนังสาว ยุค 90 ผุดขึ้นมา ว่าใช่หรือไม่ใช่

จิ๊บ คีตภัทร โพสต์ IG ชี้แจง

ล่าสุด วันนี้ (13 ม.ค. 2566) “จิ๊บ” ได้ออกมาแจกแจงประเด็น ที่ถูกโยง ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว

ยืนยันว่า ไม่ใช่คนในข่าวอย่างแน่นอน พร้อมจะฟ้องตามกฎหมาย กับคนที่ทำให้เจ้าตัว และก็ ครอบครัว ได้รับความเสียหาย โดยกล่าวว่า

“ขออนุญาตชี้แจงข่าวที่เป็นประเด็นอยู่ตอนนี้นะคะ ว่าไม่ใช่จิ๊บแน่นอนค่ะ

จากข่าวที่มีการใช้ชื่อหรือเจตนาใช้ภาพจิ๊บซึ่งทำให้ เกิดความเข้าใจผิดและเสียหายต่อตัวจิ๊บ ครอบครัว และแฟนเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่เป็นความจริง ไม่ได้เกิดเรื่องและไม่ได้มีการไปแจ้งความดำเนินคดีใดๆ อย่างในข่าว จิ๊บมาหาครอบครัวที่อเมริกาเป็นเวลา 3 เดือนแล้วค่ะ

อยากขอให้ทุกคนใช้วิจารณญาณในการเสพข่าวส่วนผู้ที่ทำให้จิ๊บและครอบครัวได้รับความเสียหาย จะขอดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อรักษาสิทธิ และความถูกต้องให้ถึงที่สุด ขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่ส่งเข้ามานะคะ”

พร้อมเขียนแคปชั่นใต้โพสต์ด้วยว่า “ขออนุญาตชี้เเจงข่าวที่เป็นประเด็นอยู่ตอนนี้นะคะ ว่าไม่ใช่จิ๊บเเน่นอนค่ะ”

โดยมีแฟนๆ ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น รวมทั้ง ส่งกำลังใจ ให้สาวจิ๊บ อย่างล้นหลาม มากมาย

ทำเอาโลกออนไลน์ร้อนแรงอย่างมากมาย หลังก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวลือแรง ว่ามีอดีตนางเอก จ. ช่องหลากสี ถูกขู่ ปล่อยคลิปลับ คลิปฉาว เรียกเงิน 4 แสนบาท ซึ่งผู้คนจำนวนมากก็เดาไปเรื่อยๆ และก็ ในที่สุดผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยมาพุ่งเป้า ที่อดีตนางเอกมีชื่อ จิ๊บ-คีตภัทร อันติมานนท์ ที่ถูกโยงว่า เป็นคนภายในคลิปฉาว ทำเอาเธอเสื่อมเสียชื่อเสียงขึ้นมาทันที

จิ๊บ คีตภัทร

เปิดประวัติ “จิ๊บ คีตภัทร” สาวสวยฝีมือดี ที่คนอยากรู้จัก ให้มากขึ้น

ความคืบหน้าล่าสุด ในโลกออนไลน์ มีคนจำนวนไม่น้อย สอบถามมาจำนวนมาก ว่าสาวจิ๊บ ประวัติมีอะไรอย่างไรบ้าง บ้างก็พูดว่าสวยเด่น อยากทราบงานก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา จะได้ไปดูย้อนหลัง งานนี้พวกเราเลยไม่พลาด มาอัพเดทให้แล้วจ้า…

คีตภัทร อันติมานนท์ ชื่อเล่น จิ๊บ เกิดเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2527 เป็นนักแสดงในสังกัดดาราวิดีโอและสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 จิ๊บเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ เป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัวอันติมานนท์ จิ๊บเป็นนักแสดงสาวชาวไทย ซึ่งเป็นน้องสาวของนักแสดงชายคือ จิม-เจจินตัย แวนดิว นั่นเอง…

โดยจิ๊บเริ่มเข้าสู่วงการสายบันเทิงไทยเป็นนักแสดงมีผลงานเรื่องแรกเช่น กว่าจะรู้เดียงสา แสดงคู่กับ วี-วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ เป็นที่รู้จักในบทบาท แว่นทิพย์ ซึ่งเป็นนางเอกในละครหลังข่าวเรื่องแรกเมื่อในปี 2543 และละครเรื่อง เจ้าสัวน้อย และผลงานที่แสดงคู่กับ วี-วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ อีกหนึ่งเรื่องละครเรื่อง ลูกหลง ทำให้คีตภัทรเป็นนักแสดงที่รู้จักกันและมีชื่อเสียงในยุคนั้น ต่อมาจิ๊บรับงานละครหลายๆเรื่อง และเป็นการพลิกบทบาทเป็นนางร้ายและเป็นนักแสดงที่มีคุณภาพและมีความสามารถด้านการแสดงอีกคับคั่ง

สำหรับผลงานโดดเด่นของสาวจิ๊บนั้นมีมากมายหลายเรื่อง อาทิ กว่าจะรู้เดียงสา, กามเทพลวง, ลูกหลง, เบญจา คีตา ความรัก, รักล้นซอย, ยอดชายนายโข่ง, ทิวลิปทอง เป็นต้น

ผลงานเพลงประกอบละคร เพลง ดนตรีในหัวใจ เพลงประกอบละครเบญจา คีตา ความรักขับร้องร่วม เพลง เพื่อวันที่ดีกว่า เพลงประกอบละครเบญจา คีตา ความรักขับร้องร่วม

ในปัจจุบันนี้นอกจากงานในวงการบันเทิงแล้ว ยังทำงานมีธุรกิจส่วนตัว รวมไปถึงเธอยังมีธุรกิจส่วนตัวควบคู่ไปด้วย และนอกจากนั้นเธอยังเป็นพาร์ทเนอร์ร้านอาหารไทยที่ชื่อ Noi Thai Cuisine Greenlake ที่ Seattle ประเทศสหรัฐอเมริกา อีกด้วย